รีวิวหนังใหม่

รีวิว ฮักเถิดเทิง (2020)

เรื่องวุ่น ๆ เกิดขึ้นในงานมหกรรมการแสดงหมอลำใจกลางเมืองใหญ่ของภาคอีสาน เมื่อก๊วนบอยแบนด์ซุปตาร์อย่าง หมอลำผู้คลั่งไคล้เอลวิส ศิลป์ชัย (ก้อง ห้วยไร่), หนุ่มแหบเสน่ห์ผู้หลงใหลการเต้นมูนวอล์ก เพชร (แซ็ค ชุมแพ) และหมอลำเร็กเก้ พิณ ปทุมราช (เบิ้ล ปทุมราช) ต้องมาพ่ายแพ้ผลโหวตให้กับเกิร์ลกรุ๊ปแห่งภาคอีสาน นรี (ลำไย ไหทองคำ), เจนนี่ (เจนนี่ รัชนก), กาแฟ (เนสกาแฟ ศรีนคร) และ อาลี่ (อาม ชุติมา) อย่างมีเงื่อนงำ จากศิลปินดาวรุ่งกลายเป็นศิลปินดาวร่วง ศิลป์ชัย, เพชร และ พิณ จึงต้องทำทุกทางเพื่อเรียกชื่อเสียงและงานกลับคืนมา มหกรรมความฮาแบบวายป่วงจึงเริ่มขึ้น!!! นำทีมฮาโดย ก้อง ห้วยไร่, เบิ้ล ปทุมราช, แซ็ค ชุมแพ, นะโม ไทบ้านเดอะซีรี่ส์, ชิงชิง คริษฐา, ลำไย ไหทองคำ ตามมาด้วยนักร้องวงการลูกทุ่งรุ่นใหม่ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น, เนสกาแฟ ศรีนคร, อาม ชุติมา และแบม ไพลิน ยันก๊วนตลกฝีมือเก๋า อาภาพร นครสวรรค์, อี๊ด โปงลางสะออน, ค่อม ชวนชื่น, ตาต้าร์ ไทบ้านเดอะซีรี่ส์ และ พิม นาคำไฮ จุดสังเกตแรกของหนังเรื่องนี้ที่เป็นประเด็นหลักก็คือ ความไม่แข็งแรงและไม่สมประกอบของพล็อตครับ จริง ๆ ผมคิดว่าพล็อตหนังเรื่องนี้ สามารถพัฒนากลายเป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องของซุปตาร์ตกอับ มิตรภาพความเป็นเพื่อนที่ต้องเผชิญกับความท้าทาย แล้วค่อย ๆ ลากเส้นไปจบที่พล็อตทวิสต์ว้าว ๆ ที่ว่าด้วยเรื่องของกลโกงในค่ายเพลงได้เลยนะครับ แต่ทว่า ตัวหนังที่เปิดด้วยการประกวดวงดนตรียอดนิยม ดันโพล่งเรื่องการโกงโหวตเพื่อให้ตัวเองชนะออกมาตั้งแต่แรก แม้ตัวหน้าหนังจะโปรโมตไปว่า นี่คือเรื่องราวของการกู้ชื่อกู้เสียงของซุปตาร์อีสานที่โดนเกิร์ลกรุ๊ปแย่งความนิยม แต่ดูเหมือนว่าพล็อตกลับไม่วิ่งแวะไปทางนั้นเลย ตัวหนังกลับ “เถลไถล” กันตั้งแต่ตอนนั้น เหมือนไม่มีอะไรจะให้เล่าแล้ว ก็เลยเถลไถล แวะเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ไปมาก่อนหนังจบก็แล้วกัน แถมตัวเส้นเรื่องรองในเรื่องของความรัก ก็ยังพาเถลไถลไปไกลห่างจากเส้นเรื่องหลักอีก ทำให้พล็อตที่ดูน่าจะแข็งแรงก็เลยไม่แข็งแรง การกระทำของตัวละครในหลาย ๆ ซีนก็งง ๆอ่านต่อ

แนะนำหนังใหม่ Stowaway (2021)

เอาใจคอนไซไฟอีกแล้ว! เตรียมพบกับ Stowaway หนังแนวเอาตัวรอดในอวกาศสุดกดดัน!  เรื่องราวของทีมนักบินอวกาศที่ได้รับภารกิจไปปฏิบัติหน้าที่บนดาวอังคาร แต่ระหว่างเดินทางนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนทำให้ระบบกระสวยอวกาศเสียหาย และอ็อกซิเจนก็เหลือไม่พอสำหรับนักบินอวกาศทุกคนอีกด้วย พวกเขาจะเอาตัวรอดกันอย่างไร  กำกับโดย : Joe Penna นำแสดงโดย : Anna Kendrick, Daniel Dae Kim, Shamier Anderson และ Toni Collette ตัวอย่างหนัง Stowaway (2021)

รีวิว Army of the Dead แผลปล้นซอมบี้เดือด

Army of the Dead แผนปล้นซอมบี้เดือด มีฉากหลังในโลกหลังจากการแพร่ระบาดของซอมบี้ที่เปลี่ยนแปลงลาสเวกัส ในเรื่องของกลุ่มทหารรับจ้างการเดิมพันที่สําคัญที่สุดในชีวิตจะทําเมื่อพวกเขาเดินทางเข้าไปในเขตกักกันเพื่อก่อการปล้นที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา Army of The Dead ผลงานผู้กำกับแซ็ค สไนเดอร์ (ขุนศึกพันธุ์สะท้านโลก (300), Zack Snyder’s Justice League) เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากซอมบี้บุกถล่มจนทำให้ลาสเวกัสพังย่อยยับ และถูกปิดกั้นจากโลกภายนอก สก็อตต์ วอร์ด (เดฟ บอติสตา) อดีตวีรบุรุษชาวเวกัสซึ่งเคยต่อสู้ปะทะกับพวกซอมบี้ได้ซัดเซพเนจรกลายมาเป็นพ่อครัวย่างเบอร์เกอร์อยู่ในย่านชานเมืองซึ่งตอนนี้เขาใช้เป็นแหล่งพักพิง สก็อตต์ได้รับการติดต่อทาบทามจาก บลาย ทานากะ (ฮิโรยูกิ ซานาดะ) เจ้าของบ่อนซึ่งมาพร้อมสุดยอดข้อเสนอที่ยากจะปฏิเสธ โดยสก็อตต์ต้องฝ่าวงล้อมซอมบี้เข้าไปในเขตกักกันเพื่อหาทางนำเงิน 200 ล้านดอลลาร์ที่เก็บอยู่ในห้องนิรภัยใต้ดินในย่านสตริปออกมาให้ได้ภายใน 32 ชั่วโมง ก่อนที่ย่านดังกล่าวจะโดนรัฐบาลทิ้งระเบิดถล่ม ด้วยความหวังที่จะนำเงินค่าตอบแทนมาปูทางให้ตัวเองได้กลับไปคืนดีกับเคท (เอลล่า เพอร์เนลล์) ลูกสาวที่เหินห่าง สก็อตต์ตกลงตอบรับข้อเสนอพร้อมกับรวบรวมทีมยอดฝีมือต่างพื้นเพมาร่วมในปฏิบัติการโจรกรรมครั้งนี้ ซึ่งประกอบด้วย มาเรีย ครูซ (อนา เดอ ลา เรเกอรา) ช่างยนต์ฝีมือดี เพื่อนเก่าของสก็อตต์, แวนเดอโรห์ (โอมารี่ ฮาร์ดวิก) นักฆ่าซอมบี้มือฉมัง, แมรีแอนน์ ปีเตอร์ส (ทิก โนทาโร) คนขับเฮลิคอปเตอร์จอมถากถาง, ไมกี้ กูซแมน (ราอูล คาสติลโญ) อินฟลูเอนเซอร์นักทุ่มกับ เชมเบอร์ส (ซาแมนธา วิน) สาวขาลุยเพื่อนรักของไมกี้, มาร์ติน (การ์เร็ต ดิลลาฮันต์) หัวหน้าแผนกรักษาความปลอดภัยของคาสิโน, นักรบสาวฝีมือฉกาจที่ได้สมญานามว่าไคโยตี้ (โนรา อาร์เนซเซเดอร์) ซึ่งเป็นคนทาบทามเบิร์ต คัมมิ่งส์ (ธีโอ รอสซี) เจ้าหน้าที่รปภ. เหลี่ยมจัดให้มาร่วมทีม และยอดฝีมือไขตู้เซฟสมองเปรื่องชาวเยอรมันที่ชื่อดีเทอร์ (แมทเธียส ชไวเกอร์เฟอร์) สก็อตต์ต้องเจอเรื่องหนักใจเมื่อ เคท ผู้เป็นลูกสาวมาร่วมในปฏิบัติการครั้งนี้เพื่อตามหา กีต้าอ่านต่อ

Christmas-Crossfire

[รีวิว] Christmas Crossfire | Netflix หนังตลกสุดป่วน

Christmas Crossfire ภาพยนต์ Original Netflix จากเยอรมัน เรื่องราวของชายหนุ่มสุดซวยที่เดทกับสาวได้วันเดียวแล้วจะเข้าบ้านเธอ จู่ๆ ก็ต้องเข้าไปห้ามมาเฟียที่กำลังจะฆ่ากัน ทำให้พวกเขาต้องหนีกันจ้าละหวั่นในคืนวันคริสมาสต์สุดป่วนนี้ ดูจากตัวอย่างแล้ว ภาพยนต์เรื่องนี้จะเป็นแนวตลกร้าย แอบจิกกัดเสียดสีสังคมในบ้านเขาอย่างเยอรมันบ้าง และนั่นก็ทำออกมาได้ดีและดูเพลินมากเลยทีเดียว คริสต์มาสระห่ำ ภาพยนต์จากเยอรมันที่ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ เรื่องราวของ แซม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาลัยจากเบอร์ลิน ที่กำลังดื่มเหล้าในบาร์คนเดียวเหงาๆ แต่แล้วก็มีสาวเจ้าคนหนึ่งชื่อว่า เอ็ดด้า เข้ามาคุยถูกคอจนได้เสียกันภายในรถตั้งแคมป์ของเขาเอง ผู้สาวเอ็ดด้าจึงชวนแซมออกจากเมืองกรุงกลับไปยังบ้านเกิดในชนบทเล็กๆ ที่หนึ่ง (ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง) เพื่อไปร่วมงานวันเกิดของพ่อเธอในคืนคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ แต่แล้วระหว่างทางก่อนถึงหมู่บ้าน พวกเขาทั้งสองกำลังเมากัญชาอยู่ในรถจนได้ที่ แต่แซมก็ได้ยินเสียงคนโวยวายข้างนอก ด้วยความเป็นคนกรุง คนซื่อๆ ของเขา จึงต้องลงไปดูโดยทิ้งเอ็ดด้าไว้ในรถ แต่ปรากฏว่าดันไปเจอกับพวกมาเฟียท้องถิ่นที่กำลังจะเป่ากระบาลชายหนุ่มปริศนาคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าแซมคิดอะไร เขาจึงตะโกนห้ามมาเฟียพวกนั้นไป ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังจะถูกยิงวิ่งหนี และเขาก็ถูกตามล่าจากกลุ่มมาเฟียแบบซะงั้น ส่วนเอ็ดด้าก็มีเหตุที่ต้องแยกกัน เธอจึงต้องตามหาแฟนหนุ่มของเธอ และแซมก็ต้องหนีพวกมาเฟียไป ด้วยความที่เป็นหนังตลกร้าย กลิ่นอายในแบบหนังของเควนตินก็มีบ้างประปราย ตัวละครที่โง่ แต่อวดฉลาด ในสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตาย หรือการพบกันของตัวละครคู่ปรับกันอย่างบังเอิญ ทุกอย่างมันจะดูแปลกๆ แต่มันเรียกได้ว่าจะเป็นเสน่ห์ของหนังแนวนี้ ถ้าหากใครชอบก็จะชอบ แต่ถ้าไม่อินก็คือไม่ชอบไปเลย ตลอดการเดินทางของหนัง ตัวละครหลักอย่างแซม และเอ็ดด้า ก็เจอกับเหตุการณ์หลายอย่างที่จะเปลี่ยนความคิดพวกเขา รวมถึงคนดูเอง เหมือนเราได้ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาในดินแดนที่มึนๆ งงๆ แต่สนุก และน่าติดตามว่ามันจะออกมาแบบไหน จนไปถึงฉากจบที่วายป่วง และซานต้าที่ไล่แจกกระสุนจนสมกับเป็นชื่อหนังอย่างคริสต์มาสระห่ำ ทำออกมาได้ดี และอีกอย่างที่ต้องชมคือ บรรยากาศชนบทในเรื่องนำเสนอออกมาผ่านฉากได้สวยงามทำให้เราสัมผัสกลิ่นอาย และบรรยากาศได้ ตัวละครหลักฝั่งตัวร้ายอย่างหัวหน้ามาเฟีย แฮร์มัน ที่กำลังทำอะไรบางอย่าง และมีปัญหากับคนซวยอย่างแซม ก็เป็นตัวละครที่มีหลายมิติ แม้จะดูไม่ใช่คนดี แต่เขาก็มีเหตุผลของเขา และทีเด็ดก็คือเหล่าลูกน้องในแบบหนังตลก ที่จะมีทั้งลูกน้องเอ๋อๆ กระจอกๆ ห้อยสอยติดตามที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นภาระให้หัวหน้า ทำให้เรื่องนี้มันเลยดูสนุกและเพลินมาก ข้อเสียหลักๆ ก็คือตัวเรื่องเองพยายามใส่แก่นของเรื่องที่ว่า คนเราจะทำอะไร ต้องได้รับผลที่ตามมา อยู่ทั้งเรื่อง แต่เรากลับไม่เห็นอะไรแบบนั้น แม้จะดูสนุกและเพลิน แต่มันก็ไม่ได้เป็นที่น่าพูดถึงหรือสนุกซะจนต้องนำมันกลับมาดูซ้ำอ่านต่อ

อ้ายคนหล่อลวง

[รีวิวหนังใหม่] อ้ายคนหล่อ…ลวง !! หนังโรแมนติก คอมเมดี้

ภาพยนตร์คอมเมดี้ส่งท้ายปีของ “จีดีเอช” จากผู้กำกับฝีมือดี “เมษ ธราธร” ที่เคยกำกับเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ATM เออรักเออเร่อ และการกลับมาของฝีมือผู้กำกับสุดฮากับภาพยนต์เรื่อง อ้าย..คนหล่อลวง ว่าด้วยเรื่องของแก๊งต้มตุ๋นทางโทรศัพท์ที่โชคร้ายโทรเข้ามาเจออดีตพนักงานธนาคารจนต้องหันมาทำภารกิจหลอกเงินคืนร่วมกันเพื่อไม่ให้ถูกจับส่งตำรวจ ‘ทาวเวอร์’ รับบทโดย ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ นักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์สุดแพรวพราว ที่ดันพลาดท่าถูก ‘อินา’ รับบทโดย ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ อดีตสาวแบงค์สุดเพี้ยนจับไต๋ได้ อินาจึงยื่นข้อเสนอให้ทาวเวอร์คิดแผนต้มตุ๋น ‘เพชร’ รับบทโดย แบงค์ – ธิติ มหาโยธารักษ์ แฟนเด็กที่หลอกให้อินาเปย์ค่าเทอมหลายแสนแล้วชิ่งหนี จนอินาเป็นหนี้ท่วมหัว แต่ภารกิจกลับถูกยกระดับขึ้น เมื่อทาวเวอร์ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจากต้มเงินแสน เป็นตุ๋นเงินล้าน งานนี้จึงต้องหาทีมมาช่วยอย่าง ‘ครูนงนุช’ รับบทโดย แหม่ม – คัทลียา แมคอินทอช ครูสมัยประถมของอินา ผู้ที่ร้อนเงินที่สุดในช่วงนี้ หลายคนคงเคยชมตัวอย่างที่ปล่อยออกมากันบ้างแล้ว แต่ขอบอกเลยว่ามันเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ตัวภาพยนตร์เต็มเรื่องจริงๆถือว่าทำออกมาได้คอมมาดี้สุดๆ สมแล้วที่เป็นภาพยนตร์ส่งความสนุก เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันปลายปีจากจีดีเอช ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเมษ กลิ่นอายจาก ATM เออรัก เออเร่อ ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวธนาคารอย่าง JNBC เองก็มาปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ที่น่าชมคือนักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะคู่พระนาง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ถือว่าเคมีความฮาดูเข้ากันได้ดีมาก สำหรับใบเฟิร์น เธอเล่นออกมาได้แบบไม่ห่วงสวย และทำให้เราเชื่อได้ว่า สาวนคนนี้เป็นแกะที่โดนหลอกและเสียค่าโง่ได้อย่างแนบเนียน (ฉากปล่อยผมในตำนานที่เห็นในตัวอย่าง พอดูในหนังจริงๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่า…คลาสิก) ขณะที่การแสดงของณเดชน์ ต้องบอกว่าเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ ทุกฉากที่ณเดชน์ โผล่ออกมา ไม่มีข้อกังขาในการแสดงของเขาเลย โดยเฉพาะการเป็นนักต้มตุ๋น เนียนกริ๊บ! (แต่ถ้าหามว่าเราชอบฉากไหน แนะนำฉากซิ่งรถเฟอร์รารี นั่นคือสุดยิดการแสดงของณเดชน์ ในหนังเรื่องนี้เลย) สาเหตุที่นักแสดงรีดความสามารถในการเล่นออกมาได้ขนาดนี้ ในบทสัมภาษณ์ของเบื้องหลัง ณเดชน์ เล่าว่า ผู้กำกับเปิดโอกาสให้นักแสดงลองเล่นโดยการตีความตัวละครนั้นๆอ่านต่อ

call

รีวิวหนังระทึกขวัญ The Call | Netflix เมื่อสัญญาณสายต่อถึงคนในอดีตที่อยู่บ้านเดียวกัน

ซอยอน (รับบทโดย พัคชินฮเย) หญิงสาวที่อาศัยอยู่ในยุคปัจจุบัน ที่วันนึงเธอได้รับสายปริศนาจากโทรศัพท์บ้านใหม่ เพราะบ้านเก่าเธอไฟไหม้และเสียพ่อไป เธอเอาแต่โทษว่าเป็นความผิดของแม่ สายปริศนาที่เธอได้รับถูกโทรมาจากอดีตในปี 1999 จากหญิงสาวที่ชื่อว่าโอยองซุก (รับบทโดย จอนจงซอ) ที่อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงที่เป็นหมอผีร่างทรง (รับบทโดย อีเอล) ที่มักจะทารุณกรรมเธออยู่เสมอ โดยอ้างว่าจะขับไล่วิญญาณชั่วร้าย พล็อตฮิตในปี 2020 นี้เถียงไม่ได้เลยว่าพล็อตข้ามเวลาหรือพล็อตโลกคู่ขนานนั้น มาแรงมากแบบฉุดไม่อยู่ ในฝั่งของซีรีส์มีพล็อตแนวนี้ออกมานับไม่ถ้วนทั้งเรื่อง Alice , The King: Eternal Monarch , Train , 365: Repeat The Year หรือ Kairos ที่กำลังออนแอร์อยู่ในขณะนี้ ในฝั่งของภาพยนตร์ก็ไม่ยอมน้อยหน้าส่ง The call ภาพยนตร์แนวทริลเลอร์ ระทึกขวัญที่ผสมผสานความเป็นแฟนตาซีข้ามเวลาเข้ามาทวีความลุ้นระทึกจนคนดูต้องลุ้นตามกันจนเหนื่อย โดยภาพยนตร์เรื่องนี้ได้น้องผักหรือ พัคชินฮเย นางเอกแนวหน้าของวงการ มาประชันฝีมือกับนักแสดงสาวดาวรุ่งแห่งวงการภาพยนตร์ จอนจงซอ ที่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์เรื่อง Burning เมื่อปี 2018 ที่ผ่านมา พร้อมด้วยนักแสดงสมทบมากความสามารถอย่าง คิมซองรยอง และ อีเอล ที่ต่างก็ปล่อยของใส่กันสุด ๆ ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนักแสดงนำและตัวเนื้อหาที่น่าสนใจแล้ว สิ่งที่ทำให้หนังเรื่องนี้น่าสนใจและน่าจับตามองมากขึ้นไปอีก ก็คงจะเป็นฝีมือการกำกับของผู้กำกับหนุ่มหน้าใหม่ อีชุงฮยอน ที่หลายๆคนต่างก็รอดูกันว่าผู้กำกับหนุ่มคนนี้จะถ่ายทอดหนังเรื่องนี้ออกมาในรูปแบบไหนเพราะภาพยนตร์ The call เป็นผลงานภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของเขา โอยองซุก ที่รับบทโดย จอนจงซอ ในเรื่องนี้เรียกได้ว่าพกความโรคจิตมาปล่อยแบบไม่มีกั๊ก ทุกฉากที่เธอออกมาไม่ว่าจะน้ำเสียง แววตา การขยับของร่างกายก็ล้วนบ่งบอกว่าจิตใจของเธอนั้นไม่ปกติ เธอนั่นต้องทนทุกข์กับการโดนทารุณจากแม่เลี้ยงอย่างโหดร้ายมาตลอดหลายปี ทำให้นอกจากบาดแผลทางร่างกายแล้วบาดแผลทางจิตใจที่ถูกทำร้ายก็สะสมจนเธอกลายเป็นคนมีบุคลิกภาพผิดปกติชนิดก้ำกึ่งและต่อต้านสังคม ที่ทวีความรุนแรงในพฤติกรรมการแสดงออกของเธอไปอีกเป็นทวีคูณ เรียกได้ว่าจงซอเล่นได้ไม่ดร็อปเลยแม้แต่ฉากเดียว ซอยอน ที่รับบทโดย พัคชินฮเย ก็ไต่ระดับความประสาทได้อย่างดีเยี่ยม จากหญิงสาวที่ต้องทนทุกข์จากการเสียพ่อและโกรธเคืองแม่ กลายมาเป็นหญิงสาวที่เพรียบพร้อมและมีความสุขกับการที่ครอบครัวกลับมาอยู่พร้อมหน้าอบอุ่น และต้องกลับมาตกต่ำถึงขีดสุดกับสิ่งที่ปีศาจร้ายอย่างยองซุกหยิบยื่นให้กับเธอ ทำให้เธอต้องฟาดฟีปากและหาทางเอาคืนเพื่อดิ้นรนจากสิ่งที่ยองซุกจะทำให้ได้ ซอยอนในเรื่องนี้เป็นตัวละครที่มีหลากอารมณ์มากๆและน้องผักก็สามารถเข้าถึงทุกบทบาทได้อย่างน่าขนลุก การค่อยๆร้องไห้ไปพร้อมๆกับการเพิ่มวอลลุ่มเสียงไปด้วยทั้งๆที่ต้องแสดงเพียงคนเดียวกับโทรศัพท์เปล่าๆนี่มันน่าทึ่งมากกก!!! ภาพยนตร์เรื่องนี้ในช่วงต้นเรื่องที่เป็นการเกริ่นนำสามารถทำได้ดีชวนติดตามอยู่พอสมควร ชวนให้อยากรู้และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นอดีตจะถูกเปลี่ยนเช่นไรส่งผลต่อปัจจุบันอย่างไร ใครจะต้องมาตายเพราะยองซุกอีก และซอยอนจะเอาตัวรอดและเอาชนะยองซุกได้ด้วยวิธีอะไรอ่านต่อ

ดูหนังออนไลน์