รีวิวหนังใหม่
woder-woman1984

รีวิวหนัง Wonder Woman 1984 : เหตุการณ์ในช่วงปี 1984

สำหรับ Wonder Woman 1984 นั้นมองเห็นได้ชัดตั้งแต่ชื่อเรื่องว่า แพตตี้ เจนกินส์ พยายามที่จะหาช่องทางการนำเสนอที่แตกต่างจากขนบของหนังซูเปอร์ฮีโร ด้วยการกำหนดให้เรื่องราวเกิดขึ้นในปี 1984 นำจุดเด่นของยุค 80s มาใช้เป็นฉากหลังได้อย่างชัดเจน ผลงานการกำกับของหญิงคนเดิม Patty Jenkins ที่ครั้งนี้ได้ทีเขียนบทหนังเอง ด้านนักแสดงนำ นอกเหนือจาก Gal Gadot ผู้แสดงเป็นวันเดอร์ วูแมนแล้ว ก็ยังมีนักแสดงนำที่เป็นคนรักของฮีโร่หญิงอย่าง Chris Pine ที่กลับมาปรากฏบนจออีกครั้ง ซึ่งหลายคนก็คงจะสงสัยว่า เขาจะกลับมายังไงในเมื่อเขาตายไปในภาคก่อน เรื่องย่อหนัง Wonder Woman 1984ในครั้งนี้ ไดอาน่า หรือ วันเดอร์ วูแมน (Gal Gadot จากหนังเรื่อง Justice League, Wonder Woman และ Keeping Up with the Joneses) เธอผู้ใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาต่อมา ในวันที่ไม่มี สตีฟ เทรเวอร์ (Chris Pine จากหนังเรื่อง Star Trek Beyond, Into the Woods และ Jack Ryan: Shadow Recruit) ชายหนุ่มนักบินคนที่เธอรักสุดหัวใจคนเดียวตลอดกาล ไม่ว่าโลกจะเปลี่ยนไปแค่ไหน เสื้อผ้าหน้าผมที่อาจเปลี่ยนไปตามกาล แต่ทำหน้าที่ซูเปอร์ฮีโร่หญิงทรงพลังของเธอนั้นไม่เคยเปลี่ยนแปลง ก่อนอื่นต้องบอกเลยว่าหนังภาคนี้ยาวถึง 2 ชั่วโมง 31 นาที ความรู้สึกเมื่อดูจบ ตอบได้ทันทีว่ายาวเกินไป เนื้อหาความตื่นตาตื่นใจไม่ได้อัดแน่นสมกับระยะเวลาของหนัง หลายตอนสามารถตัดทอนให้กระชับลงได้ และฉากแอ็กชันจริง ๆ ก็มีเพียงแค่ 3 ฉากเท่านั้น ย้ำชัด ๆ เลยว่าแค่ 3อ่านต่อ

GHOSTS-OF-WAR

รีวิว GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม

ปี 1944 ในช่วงที่การสู้รบระหว่างฝ่ายสัมพันธมิตรและนาซีกำลังถึงจุดสิ้นสุด ทหารอเมริกัน 5 นาย ได้รับภารกิจปกป้องคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งในฝรั่งเศสจากการโจมตีของนาซีเยอรมัน แต่พวกเขาต้องเจอกับเหตุการณ์ลึกลับชวนขวัญผวาที่พัวพันกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม จะเล่าถึงกลุ่มทหารอเมริกัน 5 นาย ได้รับภารกิจปกป้องคฤหาสน์เก่าแก่แห่งหนึ่งในฝรั่งเศษ จากการโจมตีของนาซีเยอรมัน แต่พวกเขาต้องเจอกับเหตุการณ์ลึกลับชวนขวัญผวา ที่พัวพันกับเรื่องราวเหนือธรรมชาติ กลายเป็นภารกิจสุดลุ้นระทึก ชวนขนหัวลุก GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม นี่มันหนังผีอะไรเนี้ยย พล็อตเรื่องโคตรล้ำคาคเดาไม่ได้ ผีก็แบบ น่ากลัวพอใช้ได้เลย มีฉากให้ตุ้งแชค่อยข้างเยอะพอสมควร แถมได้ผลเกือบจะทุกอย่าง ทำคนดูสะดุ้งกันเป็นแถว แล้วยิ่งบวกไปกับบรรยากาศหนังที่เล่าย้อนไปในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ทหาร 5 นาย ต้องปกป้องคฤหาสน์ร้าง ยิ่งทำให้หนังมีดูขนลุกขึ้นไปอีก ฉากต่างๆของหนังก็ได้ดีสามารถพาคนดูย้อนไปเหมือนอยู่ในเหตุการณ์ช่วงนั้นได้เลย แต่เอาจริงๆแล้วเนื้อเรื่องของหนังไม่ค่อยมีอะไรเลย ชอบในความที่หนังทำออกมาให้คาคเดาไม่ได้เนี้ยล่ะ เป็นหนังผีที่เยี่ยมเลย นอกจากนั้นยังมีมุกตลกแทรกมาในหนังด้วย เพื่อไม่ให้คนดูกลัวผีจนเกินไป ต่อมาด้านนักแสดงก็เยี่ยมแสดงออกมาได้ดีทุกคน ใครที่อยากสัมผัสหนังผีเนื้อเรื่องสุดล้ำแบบนี้ หนังผีเรื่องนี้ GHOSTS OF WAR โคตรผีดุแดนสงคราม ไม่ควรพลาด

รีวิวหนัง “อีเรียมซิ่ง” หนังฮาระเบิดระเบ้อที่ได้คะแนนเต็ม 10

อีเรียมซิ่ง หนังที่ได้รับความสำเร็จมาก หนังแอดเวนเจอร์คอมเมดี้เรื่องอีเรียมซิ่ง ที่ออกตัวแรงตั้งแต่วันแรกที่เข้าฉาย กวาดรายได้ทะลุ 150 ล้านทั่วประเทศ ภายใน 11 วัน และยังทะยานต่อไม่หยุดมุ่งสู่ 200 ล้าน หลายคนที่ได้ไปดูต่างบอกเสียงเดียวว่าสนุกจริง พร้อมชื่นชมความสามารถของเหล่านักแสดงและทีมงาน การกลับมาสู่จอใหญ่ของนางเอกซุปตาร์แถวหน้า “เบลล่า ราณี” ที่พลิกคาแรกเตอร์ต้องมาเล่นตลกสุดโต่ง ในฐานะ “อีเรียมซิ่ง” หนังตลกไทยที่ถือว่าเข็นออกมาได้ถูกช่วงเวลา หลังจากที่เลื่อนฉายมาตั้งแต่ช่วงกลางปีที่ผ่านมา และสามารถบอกได้ว่าผลงานชิ้นนี้อาจจะกลายเป็นอีกมาสเตอร์พีชเรื่องสำคัญของนางเอกสาวผู้นี้เลยก็ว่าได้ รื่องราวของ เรียม ตัวอิจฉาประจำหมู่บ้านบางน้ำกร่อย เพราะเธอเติบโตมากับการถูกเปรียบเทียบกับ แรม พี่สาวที่แสนจะเรียบร้อยและเป็นกุลสตรี ทำให้เธอมักจะคลุกคลีอยู่กับเพื่อนๆ และญาติๆ ที่เป็นผู้ชายมากกว่า ฝึกวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวเป็นงานอดิเรก แม่ของเรียมได้แต่กลุ้มใจและคิดไม่ตก กระทั่งทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะการมาของแก๊งโจรฟันแดง ที่ต้องหญิงสาวพรหมจรรย์ไปสังเวยบูชา และเรียมก็คือเป้าหมายของพวกมัน ทำให้เธอต้องลุกขึ้นสู้ อีเรียมซิ่ง เป็นผลงานการกำกับหนังเรื่องล่าสุดของ “พฤกษ์ เอมะรุจิ” หลังจากที่ประสบความสำเร็จได้ดีจากหนังไบค์แมน ทั้ง 2 ภาค กลับมาในคราวนี้เขายังคงหยิบเอาประสบการณ์และสิ่งที่เขาทำเอาไว้ได้ดีจากเรื่องก่อน นั่นก็คืองานออกแบบและสร้างจังหวะเชิงขบขันที่อยู่ในหนัง กลายเป็นว่าหนังเรื่องนี้มีจุดเด่นที่ดีในเรื่องจังหวะของหนัง แม้ว่ามุกตลกในหนังที่ใส่เข้ามาจะไม่ได้มีอะไรหวือหวาและแปลกใหม่อะไรเท่าไหร่นัก แต่การแสดงของ เบลล่า ราณี ก็ยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้หนังสมบูรณ์ยิ่งขึ้น เธอสามารถแบกรับหนังทั้งเรื่องเอาไว้ได้อยู่หมัด โชว์ทักษะการแสดงบ้าๆ บอๆ และไม่กลัวสวยออกมาได้อย่างสมจริง โดยเฉพาะการหยอดมุกที่ดูเข้าขากับนักแสดงตลกมืออาชีพได้อย่างลงตัวและไม่มีติดขัดสักฉาก หากดูที่หน้าจอทีวีในเวลาก็น่าจะเป็น เบลลา ราณี ในอีกคาแรกเตอร์กับละครเรื่องแซ่บ แต่หากมาอยู่บนจอใหญ่ก็จะได้เห็นเธอในอีกคาแรกเตอร์ที่พลิกขั้วเป็นสาวชาวบ้านที่แพรวพราวไปด้วยเสน่ห์ความก๋ากั๋น และสร้างอารมณ์ขันได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการงัดทักษะการแสดงของนักแสดงสาวผู้นี้ออกมาและได้ปล่อยของในอีกมุมอีกด้านที่ไม่ค่อยได้เห็นเธอในมุมนี้เท่าไหร่ ตามแบบฉบับหนังจากผู้สร้างชุดนี้ มักจะมาพร้อมกับทีมนักแสดงชุดใหญ่ แม้ว่าจะไม่มีใครสามารถจะโดดเด่นได้เท่ากับนักแสดงนำได้ แต่ทุกคนก็คือสีสันและส่วนเสริมที่ทำให้หนังมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น หนังได้ให้ความสำคัญกับทุกๆ คาแรกเตอร์อย่างเท่าเทียมกัน “แพท ณปภา”, “ค่อม ชวนชื่น”, “โรเบิร์ต สายควัน”, “บอล เชิญยิ้ม” หรือ “โอ๊ต ปราโมทย์” ต่างมีบทบาทที่เด่นชัดในฐานะนักแสดงสมทบ แม้ว่า อีเรียมซิ่ง ยังเผชิญหน้ากับปัญหาเดิมๆ ของหนังไทยทั่วไป ซึ่งก็คือบทหนังที่ยังค่อนข้างอ่อนและไร้น้ำหนักอ่านต่อ

Christmas-Crossfire

[รีวิว] Christmas Crossfire | Netflix หนังตลกสุดป่วน

Christmas Crossfire ภาพยนต์ Original Netflix จากเยอรมัน เรื่องราวของชายหนุ่มสุดซวยที่เดทกับสาวได้วันเดียวแล้วจะเข้าบ้านเธอ จู่ๆ ก็ต้องเข้าไปห้ามมาเฟียที่กำลังจะฆ่ากัน ทำให้พวกเขาต้องหนีกันจ้าละหวั่นในคืนวันคริสมาสต์สุดป่วนนี้ ดูจากตัวอย่างแล้ว ภาพยนต์เรื่องนี้จะเป็นแนวตลกร้าย แอบจิกกัดเสียดสีสังคมในบ้านเขาอย่างเยอรมันบ้าง และนั่นก็ทำออกมาได้ดีและดูเพลินมากเลยทีเดียว คริสต์มาสระห่ำ ภาพยนต์จากเยอรมันที่ไม่ได้มีให้เห็นกันบ่อยๆ เรื่องราวของ แซม ผู้ช่วยศาสตราจารย์ในมหาลัยจากเบอร์ลิน ที่กำลังดื่มเหล้าในบาร์คนเดียวเหงาๆ แต่แล้วก็มีสาวเจ้าคนหนึ่งชื่อว่า เอ็ดด้า เข้ามาคุยถูกคอจนได้เสียกันภายในรถตั้งแคมป์ของเขาเอง ผู้สาวเอ็ดด้าจึงชวนแซมออกจากเมืองกรุงกลับไปยังบ้านเกิดในชนบทเล็กๆ ที่หนึ่ง (ทั้งๆ ที่เพิ่งเจอกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง) เพื่อไปร่วมงานวันเกิดของพ่อเธอในคืนคริสมาสต์ที่จะถึงนี้ แต่แล้วระหว่างทางก่อนถึงหมู่บ้าน พวกเขาทั้งสองกำลังเมากัญชาอยู่ในรถจนได้ที่ แต่แซมก็ได้ยินเสียงคนโวยวายข้างนอก ด้วยความเป็นคนกรุง คนซื่อๆ ของเขา จึงต้องลงไปดูโดยทิ้งเอ็ดด้าไว้ในรถ แต่ปรากฏว่าดันไปเจอกับพวกมาเฟียท้องถิ่นที่กำลังจะเป่ากระบาลชายหนุ่มปริศนาคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าแซมคิดอะไร เขาจึงตะโกนห้ามมาเฟียพวกนั้นไป ทำให้ชายหนุ่มที่กำลังจะถูกยิงวิ่งหนี และเขาก็ถูกตามล่าจากกลุ่มมาเฟียแบบซะงั้น ส่วนเอ็ดด้าก็มีเหตุที่ต้องแยกกัน เธอจึงต้องตามหาแฟนหนุ่มของเธอ และแซมก็ต้องหนีพวกมาเฟียไป ด้วยความที่เป็นหนังตลกร้าย กลิ่นอายในแบบหนังของเควนตินก็มีบ้างประปราย ตัวละครที่โง่ แต่อวดฉลาด ในสถานการณ์ชี้เป็นชี้ตาย หรือการพบกันของตัวละครคู่ปรับกันอย่างบังเอิญ ทุกอย่างมันจะดูแปลกๆ แต่มันเรียกได้ว่าจะเป็นเสน่ห์ของหนังแนวนี้ ถ้าหากใครชอบก็จะชอบ แต่ถ้าไม่อินก็คือไม่ชอบไปเลย ตลอดการเดินทางของหนัง ตัวละครหลักอย่างแซม และเอ็ดด้า ก็เจอกับเหตุการณ์หลายอย่างที่จะเปลี่ยนความคิดพวกเขา รวมถึงคนดูเอง เหมือนเราได้ร่วมเดินทางไปกับพวกเขาในดินแดนที่มึนๆ งงๆ แต่สนุก และน่าติดตามว่ามันจะออกมาแบบไหน จนไปถึงฉากจบที่วายป่วง และซานต้าที่ไล่แจกกระสุนจนสมกับเป็นชื่อหนังอย่างคริสต์มาสระห่ำ ทำออกมาได้ดี และอีกอย่างที่ต้องชมคือ บรรยากาศชนบทในเรื่องนำเสนอออกมาผ่านฉากได้สวยงามทำให้เราสัมผัสกลิ่นอาย และบรรยากาศได้ ตัวละครหลักฝั่งตัวร้ายอย่างหัวหน้ามาเฟีย แฮร์มัน ที่กำลังทำอะไรบางอย่าง และมีปัญหากับคนซวยอย่างแซม ก็เป็นตัวละครที่มีหลายมิติ แม้จะดูไม่ใช่คนดี แต่เขาก็มีเหตุผลของเขา และทีเด็ดก็คือเหล่าลูกน้องในแบบหนังตลก ที่จะมีทั้งลูกน้องเอ๋อๆ กระจอกๆ ห้อยสอยติดตามที่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเป็นภาระให้หัวหน้า ทำให้เรื่องนี้มันเลยดูสนุกและเพลินมาก ข้อเสียหลักๆ ก็คือตัวเรื่องเองพยายามใส่แก่นของเรื่องที่ว่า คนเราจะทำอะไร ต้องได้รับผลที่ตามมา อยู่ทั้งเรื่อง แต่เรากลับไม่เห็นอะไรแบบนั้น แม้จะดูสนุกและเพลิน แต่มันก็ไม่ได้เป็นที่น่าพูดถึงหรือสนุกซะจนต้องนำมันกลับมาดูซ้ำอ่านต่อ

อ้ายคนหล่อลวง

[รีวิวหนังใหม่] อ้ายคนหล่อ…ลวง !! หนังโรแมนติก คอมเมดี้

ภาพยนตร์คอมเมดี้ส่งท้ายปีของ “จีดีเอช” จากผู้กำกับฝีมือดี “เมษ ธราธร” ที่เคยกำกับเรื่อง ไอฟาย..แต๊งกิ้ว..เลิฟยู้ ATM เออรักเออเร่อ และการกลับมาของฝีมือผู้กำกับสุดฮากับภาพยนต์เรื่อง อ้าย..คนหล่อลวง ว่าด้วยเรื่องของแก๊งต้มตุ๋นทางโทรศัพท์ที่โชคร้ายโทรเข้ามาเจออดีตพนักงานธนาคารจนต้องหันมาทำภารกิจหลอกเงินคืนร่วมกันเพื่อไม่ให้ถูกจับส่งตำรวจ ‘ทาวเวอร์’ รับบทโดย ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ นักต้มตุ๋นคอลเซ็นเตอร์สุดแพรวพราว ที่ดันพลาดท่าถูก ‘อินา’ รับบทโดย ใบเฟิร์น – พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์ อดีตสาวแบงค์สุดเพี้ยนจับไต๋ได้ อินาจึงยื่นข้อเสนอให้ทาวเวอร์คิดแผนต้มตุ๋น ‘เพชร’ รับบทโดย แบงค์ – ธิติ มหาโยธารักษ์ แฟนเด็กที่หลอกให้อินาเปย์ค่าเทอมหลายแสนแล้วชิ่งหนี จนอินาเป็นหนี้ท่วมหัว แต่ภารกิจกลับถูกยกระดับขึ้น เมื่อทาวเวอร์ตัดสินใจเปลี่ยนแผนจากต้มเงินแสน เป็นตุ๋นเงินล้าน งานนี้จึงต้องหาทีมมาช่วยอย่าง ‘ครูนงนุช’ รับบทโดย แหม่ม – คัทลียา แมคอินทอช ครูสมัยประถมของอินา ผู้ที่ร้อนเงินที่สุดในช่วงนี้ หลายคนคงเคยชมตัวอย่างที่ปล่อยออกมากันบ้างแล้ว แต่ขอบอกเลยว่ามันเป็นเพียงแค่น้ำจิ้มเท่านั้น ตัวภาพยนตร์เต็มเรื่องจริงๆถือว่าทำออกมาได้คอมมาดี้สุดๆ สมแล้วที่เป็นภาพยนตร์ส่งความสนุก เรียกเสียงหัวเราะเฮฮากันปลายปีจากจีดีเอช ด้วยความที่ภาพยนตร์เรื่องนี้กำกับโดยเมษ กลิ่นอายจาก ATM เออรัก เออเร่อ ก็ยังคงมีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นตัวธนาคารอย่าง JNBC เองก็มาปรากฎในภาพยนตร์เรื่องนี้ด้วย ที่น่าชมคือนักแสดงทุกคนเล่นดีมาก โดยเฉพาะคู่พระนาง ‘ณเดชน์ คูกิมิยะ’ และ ‘ใบเฟิร์น พิมพ์ชนก’ ถือว่าเคมีความฮาดูเข้ากันได้ดีมาก สำหรับใบเฟิร์น เธอเล่นออกมาได้แบบไม่ห่วงสวย และทำให้เราเชื่อได้ว่า สาวนคนนี้เป็นแกะที่โดนหลอกและเสียค่าโง่ได้อย่างแนบเนียน (ฉากปล่อยผมในตำนานที่เห็นในตัวอย่าง พอดูในหนังจริงๆ ก็ยิ่งรู้สึกว่า…คลาสิก) ขณะที่การแสดงของณเดชน์ ต้องบอกว่าเป็นธรรมชาติแบบสุดๆ ทุกฉากที่ณเดชน์ โผล่ออกมา ไม่มีข้อกังขาในการแสดงของเขาเลย โดยเฉพาะการเป็นนักต้มตุ๋น เนียนกริ๊บ! (แต่ถ้าหามว่าเราชอบฉากไหน แนะนำฉากซิ่งรถเฟอร์รารี นั่นคือสุดยิดการแสดงของณเดชน์ ในหนังเรื่องนี้เลย) สาเหตุที่นักแสดงรีดความสามารถในการเล่นออกมาได้ขนาดนี้ ในบทสัมภาษณ์ของเบื้องหลัง ณเดชน์ เล่าว่า ผู้กำกับเปิดโอกาสให้นักแสดงลองเล่นโดยการตีความตัวละครนั้นๆอ่านต่อ

ดูหนังออนไลน์